วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 25501 พ.ร.บ ฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป
พระราชบัญญัติตินี้ จะส่งผลกระทบผู้ใช้คอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไป เพราะหากท่านทำให้เกิดความผิดทางคอมพิวเตอร์ (ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจ) ก็อาจจะส่งผลกับท่าน และที่สำคัญ คือผู้ให้บริการซึ่งรวมไปถึงหน่วยงานต่างๆที่เปิดบริการอินเทอร์เน็ตหรือกลุ่มพนักงาน นิสัติ นักศึกษาในองส์กรผูรับผิดชอบมีหน้าที่ดูแลอย่างรอบคอบในฐานะ"ผู้ให้บริการ"
ความผิดที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. ฉบับนี้
1 การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อืนโดยมิชอบ
2 การเปิดเผยข้อมูลมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบ คอมพิวเตอร์ที่ผู้อืนจัดทําขึนเป็นการเฉพาะ
3 การเปิดเผยข้อมูลมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ทีผู้อืนจัดทําขึนเป็นการเฉพาะ
4 การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อืน
5 การทําให้เสียหาย ทําลาย แก้ไข เปลียนแปลง เพิมเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ
6 การกระทําเพือให้การทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อืนไม่สามารถทํางานได้ตามปกติ
7 การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอืนโดยปกติสุข
8 การจําหน่ายชุดคําสังทีจัดทําขึนเพือนําไปใช้เป็นเครืองมือในการกระทําความผิด
9 การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทําความผิดอืนผู้ให้บริการจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิด
10 การตกแต่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ทีเป็นภาพของบุคคล
ผู้ให้บริการที่ระบุใน พ.ร.บ. นี้ คือ บุคคลใด
ผู้ให้บริการทั้งที่เสียค่าบริการหรือไม่ก็ตาม ต้องเก็บข้อมูลเท่าทีจําเป็น เพือให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ไม่ว่าจะเป็นชือนามสกุล เลขประจําตัวประชาชน USERNAMEหรือ PIN CODE ไว้ ไม่น้อยกว่า วัน
นับตังแต่การใช้บริการสินสุดลงหากผู้ให้บริการไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้บริการไว้ถือว่าทําผิดและอาจถูกปรับสูงถึง500000บาทต่อไปไม่ว่าจะไปใช้งานอินเทอร์เน็ตทีตรงจุดใดจะต้องมีการแจ้งลงทะเบียนโดยต้องใส่ usernameและ passwordเพือให้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายสามารถเก็บบันทึกการเข้ามาใช้งานของได้รวมถึงเว็บบอร์ดทังหลาย ซึงมีผู้มาโพสเป็นจํานวนร้อย -พัน รายต่อวัน เว็บมาสเตอร์ และผู้ดูแลโฮสติง
หรือผู้ทําอาชีพเกียวกับคอมพิวเตอร์อาจเสียงต่อการระมัดระวังข้อความเหล่านันพระราชบัญญัตินี จะมีผลกระทบกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ตโดยทัวไปเพราะหากท่านทําให้เกิดการกระทําความผิดทางคอมพิวเตอร์(ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตังใจ)ก็อาจจะมีผลกับท่าน และทีสําคัญ คือผู้ให้บริการซึงรวมไปถึงหน่วยงานต่างๆทีเปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้อืนหรือกลุ่มพนักงาน นิสิต นักศึกษาในองค์กร
ผู้รับผิดชอบมีหน้าทีดูแลอย่างรอบคอบในฐานะ "ผู้ให้บริการ"
ผู้ให้บริการตาม พ.ร.บ.นี้ สามารถจําแนก ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1 ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไม่ว่าโดยระบบโทรศัพท์ระบบดาวเทียม ระบบวงจรเช่าหรือบริการสือสารไร้สาย
2 ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไม่ว่าโดยอินเทอร์เน็ต ทังผ่านสายและไร้สาย
หรือในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทีจัดตังขึนในเฉพาะองค์กรหรือหน่วยงาน
3 ผู้ให้บริการเช่าระบบคอมพิวเตอร์หรือให้เช่าบริการโปรแกรมประยุกต์ (Host ServiceProvider)
4 ผู้ให้บริการข้อมูลคอมพิวเตอร์ผ่าน application ต่างๆทีเรียกว่า content provider เช่นผู้ให้บริการ webboard หรือweb service เป็นต้น
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
ในฐานะบุคคลธรรมดาไม่ควรกระทําในสิงต่อไปนีเพราะอาจจะทําให้ “เกิดการกระทําความผิด"
ตาม พรบ.นี้
1. ไม่ควรบอก password แก่ผู้อื่น
2 อย่าให้ผู้อืนยืมใช้เครืองคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลือนทีเพือเข้าเน็ต
3.อย่าติดตังระบบเครือข่ายไร้สายในบ้านหรือทีทํางานโดยไม่ใช้มาตรการการตรวจสอบผู้ใช้งานและการเข้ารหัสลับ
4 อย่าเข้าสู่ระบบด้วยuser ID และ passwordทีไม่ใช่ของท่านเอง
5. อย่านํา user ID และ passwordของผู้อืนไปใช้งานหรือเผยแพร่
6. อย่าส่งต่อซึงภาพหรือข้อความหรือภาพเคลือนไหวทีผิดกฎหมาย
7. อย่า กด "remember me"หรือ "remember password"ทีเครืองคอมพิวเตอร์สาธารณะและอย่า log-in เพือทําธุรกรรมทางการเงินทีเครืองสาธารณะ
8. อย่าใช้ WiFi (Wireless LAN)ทีเปิดให้ใช้ฟรีโดยปราศจากการเข้ารหัสลับข้อมูล
ความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
1. เจ้าของไม่ให้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเขาแล้วเราแอบเข้าไปจําคุก 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10000บาท หรือทังจําทังปรับ
2 ไปรู้วิธีการเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อืนแล้วไปยังไปบอกให้คนอืนรู้ ต่อจําคุกไม่เกิน2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20000บาท หรือทังจําทังปรับ
3 แอบไปเจาะข้อมูลของผู้อืนทีเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์จําคุกไม่เกิน 2ปี หรือปรับไม่เกิน 40000บาท หรือทังจําทังปรับ
4 แอบไปดักจับข้อมูลผู้อืนระหว่างการสือสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์จําคุกไม่เกิน3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60000บาท หรือทังจําทังปรับ
5 ไปแก้ไขข้อมูลของในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อืนจําคุกไม่เกิน5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100000 บาทหรือทังจําทังปรับ
6 ส่ง packet หรือ message หรือ virus หรือ trojan หรือ wormหรืออะไรก็ตามเข้าไปก่อกวนจนระบบผู้อืน
จําคุกไม่เกิน5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100000 บาท หรือทังจําทังปรับ
7. ส่งข้อมูลหรืออีเมล์ ให้ผู้อืนซ้าๆ โดยผู้รับไม่ได้ร้องขอปรับไม่เกิน 100000 บาท
8. ความผิดผิดข้อ 5 กับ ข้อ 6ทําให้บุคคลทัวไปเกิดความเสียหาย
จําคุกไม่เกิน10 ปีและปรับไม่เกิน 200000 บาทหากก่อความเสียหายต่อความมันคงของประเทเศรษฐกิจ
และสังคมจําคุกตังแต่ 3-5 ปี และปรับตังแต่ 60000 - 300000 บาท
และถ้าทําให้ใครตายก็จะเพิมโทษเป็น .. จําคุกตังแต่ 10ปีถึง 20ปี
9. ถ้าเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์เพือทําให้ทําความผิดในหลายข้อข้างต้นจําคุกไม่เกิน 1ปี หรือปรับไม่เกิน 20000 บาทหรือทังจําทังปรับ
10. สร้างภาพโป๊ เรืองเท็จ ทําการปลอมแปลง กระทําการใดๆทีกระทบความมันคง ก่อการร้าย และส่งต่อข้อมูลทังๆทีรู้ว่าผิดตามทีกล่าวมาข้างต้น …จําคุกไม่เกิน 5ปี หรือปรับไม่เกิน 100000 บาท
หรือทังจําทังปรับ
11. เจ้าของเว็บ สนับสนุน / ยินยอมให้เกิดข้อ 10จําคุกไม่เกิน5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100000บาทหรือทังจําทังปรับ
12. เอารูปผู้อืนมาตัดต่อแล้วเอาไปเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์จําคุกไม่เกิน 3ปีหรือปรับไม่เกิน 60000บาท หรือทังจําทังปรับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น